สุนทรพจน์จากผู้เป็นตัวแทน
ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณทุกท่านอย่างยิ่งที่เข้ามาชมและอ่านโฮมเพทของบริษัทของเรา
บริษัทของเราเป็นบริษัทเทรดดิ้งเฉพาะทางที่ดำเนินกิจกรรมธุรกิจในวงการผลิตภัณฑ์เคมีโดยได้รับการถ่ายทอดความขยันและการประหยัดเป็น DNA ตระหนักในเรื่องการเคารพและการถ่อมตัวรวมถึงการรู้จักประมาณตน
ท่านที่สนใจเกี่ยวกับบริษัทของเรากรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
/
บริษัทยาซุดะซันกียวจำกัด เริ่มธุรกิจของบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทจำหน่ายสีย้อมสำหรับสิ่งทอ ในปีพ.ศ. 2472（โชวะที่4）ถ้าดูจากลำดับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ปี2472เป็นปีที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลกซึ่งเป็นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เริ่มเกิดขึ้นที่อเมริกาและขยายไปทั่วโลก
ในช่วงความวุ่นวายและไม่สงบของช่วงต้นโชวะคุณปู่ของผมได้ก่อตั้งธุรกิจโดยทำการค้าสีย้อมสำหรับสิ่งทอ แต่หลังจากก่อตั้งไม่นานก็มีสงครามเกิดขึ้นซึ่งประเทศญี่ปุ่นก็ได้แพ้สงคราม และโอซาก้าซึ่งเป็นสถานที่ก่อตั้งบริษัทก็ได้ประสบภัยจากสงครามอย่างรุนแรง แต่อย่างไรก็ตาม โชคดีที่สมาชิกที่ทำงาน เช่น ผู้ก่อตั้ง มีชีวิตรอด และก็สามารถเปิดทำการค้าใหม่ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อยกับซัพพลายเออร์ และลูกค้าที่มีอุปการะคุณกันมาตั้งแต่ก่อนสงคราม
โดยมีเบื้องหลังก็คือ ยุคสมัยที่สามารถทำแนฟทา( Naphtha)จากน้ำมันดิบ และจากแนฟทา ก็ทำให้เกิดพลาสติกขึ้นมา และบริษัทของเราได้ให้ความสนใจต่อวัตถุดิบที่เรียกว่าพลาสติกซึ่งเป็นวัตถุดิบในยุคหลังสงคราม และมีเป้าหมายในการขยายกิจการสีย้อมซึ่งได้ค้าขายตั้งแต่ก่อตั้งมา พร้อมด้วยkey word ที่ว่าcoloring
ไม่ว่ายุคสมัยใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใดก็ตาม ผู้ก่อตั้งซึ่งบรรลุผลในการก่อตั้งธุรกิจจะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และมีการท้าทายอยู่เสมอ ดังนั้นในปีพ.ศ.2500ก็สามารถจัดตั้งฐานการขายที่นาโกย่า และปีพ.ศ 2502ที่โตเกียว
ก่อนหน้านั้น ในปี พ.ศ. 2493และปีพ.ศ.2503ในช่วงที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเจริญเติบโตอย่างสูง เราได้สร้างเครือข่ายกับซัพพลายเออร์และลูกค้าในด้านเคมีและพลาสติกเคมีภัณฑ์สำหรับสิ่งทอไว้เป็นจำนวนมาก
ในช่วงหลังที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเจริญเติบโตอย่างสูงนั้น ก็มีงานอีเวนท์ใหญ่ๆอย่างต่อเนื่อง เช่นโตเกียวโอลิมปิก และงานเอ็กซ์โปรที่โอซาก้า และเห็นภาพที่ผู้คนมีความรู้สึกปลาบปลื้มยินดีซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่รุ่งเรืองถึงขีดสุดอันหนึ่งของญี่ปุ่นหลังสงคราม
แต่อย่างไรก็ตาม ความรุ่งเรืองนั้นไม่ได้เกิดต่อเนื่องไปตลอด ในปีพ.ศ. 2516 และ ปีพ.ศ. 2522ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นมากและเกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจของโลก หรือที่เรียกว่าวิกฤตน้ำมัน ( Oil Shock)พวกเราวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME)ก็เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง และเท่าที่ได้ทราบ การบริหารกิจการของยาซุดะซันเกียวในตอนนั้นก็ลำบากอย่างยิ่งยวดหลังจากนั้น เมือเข้าช่วงปี พ.ศ.2523ญี่ปุ่นผ่านเข้าสู่ยุคระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว และค่าเงินเยนที่สูงตามข้อตกลงพลาซ่า และเข้าสู่เศรษฐกิจฟองสบู่อย่างรุนแรงและกระทันหันซึ่งเป็นยุคสมัยที่สามารถซื้อที่ดินทั่วอเมริกาได้ในราคาที่ดินด้านในของรถไฟฟ้าสายยามาโนเตะ และเป็นยุคสมัยที่ผู้บริหารธุรกิจทั้งหมดจะซื้อหุ้น และซื้อที่ดิน เป็นการตอบสนองต่อภาวะเงินเฟ้อในราคาทรัพย์สิน
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของยาซุดะซันเกียวในตอนนั้น ไม่ได้วิ่งเข้าหาเงินที่ได้ง่ายๆหรือที่ได้กำไรอย่างรวดเร็ว แต่ได้บริหารกิจการด้วยนโยบายที่พยายามที่จะผลักดันธุรกิจหลักอย่างไม่หยุดยั้ง โดยปฏิเสธการบริหารกิจการแบบที่ตอบสนองที่เรียกว่า เศรษฐกิจฟองสบู่ ไม่ใช่ว่าเป็นนักบุญ แต่เพราะรู้ถึงกำลังที่แท้จริงของตนเองและได้ตระหนักในการบริหารงานที่ไม่ยอมแพ้
และเศรษฐกิจฟองสบู่ของญี่ปุ่นขึ้นสูงสุดในปี2532 และญี่ปุ่นก็ได้เข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยเป็นเวลายาวนาน ราคาหุ้น ราคาที่ดินของญี่ปุ่นมีราคาเป็น １／４、１／５ ของช่วงที่ขึ้นสูงสุด
และที่โชคดีก็คือเนื่องจากยาซุดะซันเกียวไม่ได้บริหารกิจการแบบเศรษฐกิจฟองสบู่ จึงสามารถหลุดออกมาจากช่วงเศรษฐกิจถดถอยหลังฟองสบู่แตกได้อย่างนิ่มนวลและค่อยๆเป็นค่อยๆไป โดยเจ็บตัวน้อยที่สุด
ในปีพ.ศ.2532 ซึ่งเศรษฐกิจฟองสบู่ขึ้นถึงจุดสูงสุด ยาซุดะซันเกียวได้รับโอกาสในการดำเนินกิจการใหม่นั้นคือกิจการออฟติคัลฟิล์ม(optical film)สำหรับจอLCD(จอภาพผนึกเหลว)และสำหรับพวกเราก็ได้เริ่มกิจการที่เรียกว่าวัตถุดิบออฟติคัล ซึ่งเป็นกิจการต่อจากพลาสติกเคมีคัลและสีย้อมสำหรับสิ่งทอ สำหรับยาซุดะซันเกียวนั้น ที่ผ่านมาทำธุรกิจส่วนใหญ่กับบริษัทเคมีภัณฑ์ ในตอนนั้นก็ได้เริ่มทำธุรกิจกับผู้ผลิตเครื่องไฟฟ้าและบริษัทที่มีเทคโนโลยี่ สารกึ่งตัวนำ(เซมิคอนดัคเตอร์) โดยได้ทำความเข้าใจในเรื่องข้อแตกต่างของความเร็ว(สปีด)กิจการและความแตกต่างของวัฒนธรรมทางการค้าระหว่างวงการเคมีภัณฑ์และเครื่องไฟฟ้า และผลที่ได้เรียนรู้อย่างมากกับบริษัทคู่ค้าจนกระทั่งปรับตัวและได้ขยายการค้าในสาขานี้ทีละเล็กละน้อย
ช่วงหลังของช่วงปีพ.ศ.2533เป็นการเปิดศักราชของยุคสมัยจอภาพแบนอย่างเช่น จอLCD และเกิดการเปลี่ยนแปลงสุดขีดจากหลอดบราวน์ไปยังจอผนึกเหลว และในเพียงระยะอันสั้นในโลกทั้งหมดก็ได้กลายเป็นยุคสมัยของจอแบน ไม่เพียงแต่เฉพาะสิ่งที่มีขนาดใหญ่อย่างเช่นทีวีเท่านั้นแต่ก็ได้มีการเริ่มในส่วนคอมพิวเตอร์พกพา เช่นโทรศัพท์มือถือ และระบบนำทางในรถยนต์ (car navigation)เป็นต้นด้วย
กิจการที่ค้ำจุนและสนับสนุนอุตสาหกรรมจอแอลซีดีนี้ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นคือสาขาที่เรียกว่าฟิล์มฟังก์ชั่นและบริษัทยาซุดะซันเกียวก็ได้จำหน่ายฟิล์มที่มีฟังก์ชั่นต่างๆหลากหลายด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นก็ยังเกิดวิกฤตขึ้นมาอีก อุตสาหกรรมไฟฟ้ากำลังอ่อนและอุตสาหกรรมหน้าจอ (display) ของญี่ปุ่นไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทในเอเชียตะวันออกอื่นๆได้แต่อย่างไรก็ตามที่แน่ๆก็ยังมีผู้ดำเนินธุกิจจำนวนมากที่สามารถดำเนินการอยู่ได้ และผู้ดำเนินธุรกิจที่สำคัญนั้นก็เข้าแข่งขันในด้านปริมาณ คุณภาพ และราคาจากญี่ปุ่นไปยังในเอเชียตะวันออก ตลาดที่เป็นหลักคือเอเชีย และเราได้เปลี่ยนทั้งลูกค้าและซัพพลายเออร์จากญี่ปุ่นไปยังเอเชีย
หลังจากนั้น、การพัฒนาเทคโนโลยีของหน้าจอผลึกเหลวกลายเป็นการเปิดของยุคสมัยการปฏิรูปITในตอนนั้น（ปัจจุบันโดยส่วนใหญ่จะเรียกว่า ICT= Information Communication Technology）ซึ่งปัจจุบันทำให้เราได้ทราบว่าคือ นั่นเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ในการก้าวเข้าสู่สังคมข้อมูลในระดับที่สูงอย่างเป็นรูปธรรม โดยที่ปัจเจกบุคคลในโลกจะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ต
ในปีพ.ศ. 2545 ซึ่งบรรยากาศและอารมณ์ในการย้ายกิจการเข้าสู่เอเชียดังที่กล่าวมานั้นค่อยๆมีสีสันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ พวกเราได้ตั้งฐานในต่างประเทศแห่งแรกที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณะประชาชนจีน ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วที่เซี้ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีความเป็นสากล เป็นอภิมหานคร และเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนหลายชาติเผ่าพันธุ์อยู่รวมกันในในสังคมเดียวกันได้อย่างสงบสุข แต่บนถนนรถจักยานยนต์มีมากกว่ารถยนต์ รถบัสและรถแท็กซี่ยังไม่มีเครื่องปรับอากาศ และบริษัทจากญี่ปุ่นที่เข้าไปดำเนินกิจการก็เป็นบริษัทขนาดใหญ่เป็นหลัก นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงที่ข้อมูลข่าวสารของจีนมีน้อยมาก ผมคิดว่าในตอนนั้นการดำเนินฐานในต่างประเทศสำหรับพวกเราซึ่งเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมดำเนินการได้อย่างยากลำบากยิ่งนัก
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารในตอนนั้นได้รับฟังเสียงของลูกค้าและเสียงของซัพพลายเออร์เป็นอย่างดีและคิดว่า เทคโนโลยีในการทำการค้าของยาซุดะน่าจะใช้ได้ในประเทศจีน จึงได้ตัดสินใจในการเข้าไปดำเนินกิจการที่เซี่ยงไฮ้ซึ่งชนะการคัดค้านของกรรมการทั้งหมดและได้มีการเริ่มเปิดสำนักงานตัวแทนขนาดเล็กที่เหมาะกับขนาดของตัวเองทั้งหลายและเนื่องจากเป็นการตัดสินของผู้บริหารระดับสูง ทุกคนจึงได้พยายามดำเนินการอย่างเต็มที่กัน
ดังนั้น จึงได้นำเอา DNA ของพวกเราจากญี่ปุ่นไปยังเซี่ยงไฮ้ และได้ขยายกิจการไปยังในแผ่นดินนั้น อย่างภาคภูมิใจ อย่างถูกต้องและ อย่างแข็งแรงสมบูรณ์
เนื่องจากเป็นฐานต่างประเทศแห่งแรก จึงมีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ได้ลองทำดู และด้วยจิตวิญญาณของผู้ทำการค้าของพวกเราที่ได้เห็นด้วยตาตนเองว่า ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีความยิ่งใหญ่ และมีตลาดที่ใหญ่และขยายตัวเร็วดังนั้นจึงทำให้เราไม่สามารถหยุดความพึงพอใจเพียงแค่สำนักงานตัวแทนได้
ด้วยเหตุนี้ จึงได้ก่อตั้งบริษัทในปีพ.ศ.2547ชื่อว่า บริษัท ยาซุดะ ซันเกียวเคมีภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ จำกัด เจ้าหน้าที่บัญชีที่ไปรับตำแหน่งที่เซี่ยงไฮ้ในยุคแรก ซึ่งมีการถ่ายทอด DNA และปรัชญาของยาซุดะซันเกียวที่ได้กล่าวไปข้างต้นนี้ กล่าวคือมีความขยันและการประหยัด、การเคารพและการถ่อมตนและความรู้จักประมาณตน และก็ให้ความสำคัญกับการกระจายสินค้าและการบัญชีในฐานะที่เป็นkey solutionของสมัยนั้น ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการฝากเก็บของไว้ในอารักขาศุลกากรหรือการเก็บภาษีก็ตาม หรือจะเป็นสิ่งของอันตรายก็ตาม การที่เราสามารถกระจายสินค้าอย่างราบรื่น และสามารถทำบัญชีและจัดการกับสลิปเอกสารต่างๆได้อย่างราบรื่นก็จะได้รับความเชื่อถือจากลูกค้า
หลังจากนั้นประเทศจีนได้ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในการจัดงานอีเว้นท์ระดับนานาชาติที่เรียกว่าโอลิมปิกปักกิ่งและงานนิทรรศการนานาชาติ(เอ็กซ์โปร)ที่เซี่ยงไฮ้ จีนจึงกลายเป็นประเทศที่ทั่วโลกให้ความสนใจ พวกเราสามารถทำการค้าในช่วงที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเจริญเติบโตในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และในช่วงที่เศรษฐกิจเจริญเติบโตอย่างสูงในประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน และในปีพ.ศ.2552 ได้ก่อตั้งบริษัท, สำนักงานขายในเขตจีนใต้ (ที่ฮ่องกง และเซินเจิ้น) โดยอาศัยประสบการณ์จากเซี่ยงไฮ้ และได้ดำเนินกิจการโดยตระหนักเสมอที่จะเป็นบริษัทที่เป็นองค์กรธุรกิจ ซึ่งให้ความสำคัญในการสร้างบุคคลากรในท้องถิ่นเช่นเดียวกันกับเซี่ยงไฮ้
ตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นมา ได้เริ่มการพัฒนากิจการกลาสฟังก์ชั่น และ เคมีภัณฑ์ฟังก์ชั่น ในฐานะที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของญี่ปุ่นของบริษัทจีน นอกจากนี้ ยังได้เริ่มทำธุรกิจกับลูกค้าของบริษัทจีนจนกระทั่งปัจจุบัน ในช่วงแรกที่ได้เริ่มกิจการนั้นในบริษัทญี่ปุ่นที่ใช้วัตถุดิบที่ผลิตจากจีนจะมีน้อยมาก แต่ปัจจุบัน บริษัทที่กลายเป็นพาร์ทเนอร์ที่สำคัญและไม่สามารถขาดวัตถุดิบจากจีนได้ มีเป็นจำนวนมาก และด้วยความเป็นพาร์ทเนอร์ชิพของพวกเรา ทำให้บริษัทจีนเข้าร่วมเป็นซัพพลายเชนของลูกค้าญี่ปุ่น นอกจากนี้ ก็ได้เริ่มมีบริษัทญี่ปุ่นได้เข้าไปมีส่วนที่เป็นตำแหน่งสำคัญในซัพพลายเชนของลูกค้าจีนเช่นกัน ไปพร้อมๆกับการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน
ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยความพยายามของพนักงานของยาซุดะซันเกียว ยาซุดะเซี่ยงไฮ้ และยาซุดะเซินเจิ้น จะสามารถรักษาญี่ปุ่นในฐานะที่เป็นสังคมข่าวสารที่สมบูรณ์และรักษาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของตลาด และความเร็วของกิจการในประเทศจีนที่รวดเร็วอย่างยิ่งได้
จะขอพูดที่นี่สักเล็กน้อย ในเรื่องที่เกี่ยวกับตั้งแต่แผนกขายจนกระทั่งถึงแผนกแบ็คออฟฟิศหรือแผนกสนับสนุน
กลุ่มยาซุดะซันเกียวได้ลงทุนในไอทีเป็นอย่างมากตั้งแต่ปีพ.ศ.2544 และยังคงลงทุนต่อเนื่องในปัจจุบันโดยเฉพาะมีความเพียบพร้อมในเรื่องเครื่องมือสื่อสารและเครื่องมือในการปฏิบัติงาน เครื่องมือในการปฏิบัติการวิเคราะห์และได้สร้างระบบควบคุมคอมพิวเตอร์รวมทั้งบริษัทที่เกี่ยวกับข้องกับสลิปเอกสาร และการกระจายสินค้า ในแผนกธุรการ วัตถุประสงค์ก็คือ จะทำให้สามารถยืนยันตัวเลขของสภาพปัจจุบันที่ถูกต้องและสามารถตัดสินใจได้ทันที
ผมคิดว่าการบริหารบริษัทก็เหมือนกับการขับเครื่องบิน จะตัดสินใจโดยดูเครื่องวัดต่างๆที่มีอยู่ในห้องเครื่องCockpit ไม่ใช่ใช้ความรู้สึก ถ้าเครื่องมือวัดนั้นคลาดเคลื่อน ก็จะเตือนและแจ้งไปที่ทีมแบ็คออฟฟิศว่าเครื่องบินจะตก ในปัจจุบันทำให้เราสามารถมองเห็นตัวเลขที่ถูกต้องได้ทันที ซึ่งได้สร้างระบบที่ไม่เพียงแต่ทีมผู้บริหารเท่านั้น สมาชิกทุกท่านก็สามารถดูได้ด้วย
นอกจากนี้ นอกเหนือจาก การถ่ายทอด DNA และปรัชญาดั้งเดิมแล้ว ยังได้มีการนำเอาระบบ ISO มาใช้ เพื่อให้สมาชิกในปัจจุบันมีไอเดียที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตั้งแต่พื้นฐาน ผมได้รับฟังมามากมายที่ว่า ISO มีงานจิปาถะมาก เช่น การควบคุมเอกสารและไม่เหมาะกับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แต่อย่างไรก็ตาม สมาชิกทั้งหมดโดยมีคณะกรรมการISOเป็นหลัก ได้ดำเนินการด้วยความพากเพียร พวกเราคิดว่าวิธีการคิดของISOไม่ใช่เป็นการสร้างองค์กรเพื่อชนะแต่เป็นการบริหารงานที่จะไม่แพ้ และเป็นการสร้างองค์กรที่จะไม่แพ้ หลังจากที่เราได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO14001 ในปี2007 และ ISO27001 ในปี 2012
ในปัจจุบัน การส่งเสริมเรื่องการรับรองมาตรฐาน ISO14001 และ ISMS (การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล) นั้น คณะกรรมการภายในบริษัทจะทำการฝึกอบรมการทำ PDCA ซึ่งแยกกันไปตามแต่ละหน่วยงาน และพวกเราคิดว่าความจำเป็นในวงการอุตสาหกรรมปัจจุบันก็คือพวกเรากับลูกค้าจะต้องดำเนินการหมุนเวียน PDCA ด้วยกัน
เมื่อเข้าช่วงปี2553ได้รับเสียงเรียกร้องส่วนใหญ่จากลูกค้าของพลาสติกเคมิคัลจำนวนมากให้ขยายกิจการไม่เพียงแต่เอเชียตะวันออกเท่านั้น และยังขอให้ขยายไปยังเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
พวกเราก็ไม่อดไม่ได้ที่จะขอใช้สิทธิ์เป็นนักกีฬาเพื่อที่เข้าแข่งขันในเอเซียด้วย เราจึงได้ก่อตั้งบริษัทในกรุงเทพฯ ประเทศไทย
ในการขยายกิจการที่เรียกว่าจีนบวกหนึ่ง (ไชน่า พลัส วัน) นั้น สำหรับ เอสเอ็มอี (วิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม) แล้ว มักจะมีคน สิ่งของ และเงินที่ไม่เพียงพอ แต่อย่างไรก็ตามเราได้รับความร่วมมือกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ในท้องถิ่น ทำให้สามารถดำเนินการได้ และได้เริ่มดำเนินการในเดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2556
และนี่เป็นการค้าขายในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก และที่แน่นอนอย่างที่คาดไว้คือการดำเนินการไม่ได้ราบรื่น คือมีข้อผิดพลาดต่อเนื่องอย่างมากมาย และเหมือนกันทุกครั้ง เราก็ค่อยๆรับฟังเสียงจากลูกค้าทีละเล็กละน้อย หลังจากการก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ.2472เป็นต้นมา ในระหว่างที่ยังไม่สามารถหาทางออกได้ เราก็จะสะสมประสบการณ์จากงานประจำวันอย่างไม่ย่อท้อ และเราก็คุ้นเคยกับการปฏิบัติงานที่ยากลำบากนั้นมาแล้ว
ต่อจากนี้ไป ผมขอให้พวกเราร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถอุทิศตนให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และช่วยสนับสนุนกลยุทธ์การบริหารกิจการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของลูกค้าและซัพพลายเออร์ให้ดียิ่งขึ้นอีก
แม้ประวัติของบริษัทจะแค่86 ปีแต่การดำเนินการค้ามีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจากอย่างหนึ่งไปอีกอย่างหนึ่งตลอดเวลา แม้ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาก็เช่นกัน、ก็มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ยกตัวอย่าง เช่น Lehman Shock、ปัญหาทางการเมืองระหว่างจีนกับญี่ปุ่น、อุบัติภัยจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่น、การขาดแคลนพลังไฟฟ้า、เงินเยนแข็งค่าอย่างมาก、การพัฒนาSNS、การซัพพลายเงินที่ผิดปกติโดยธนาคารกลาง、การผิดปกติของสภาพอากาศในระดับโลก เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่สามารถแก้ไขในสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมด แต่ตัวพวกเราจะไม่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงและเราได้เข้าใจในเรื่องที่ว่าไม่สามารถที่จะได้รับตำแหน่งที่เหมือนเดิมในวงการอุตสาหกรรมที่ได้รับความอุปการะมาเป็นระยะเวลานานได้
ในสุนทรพจน์ของผู้ก่อตั้งบริษัทในประเทศอเมริกาท่านหนึ่งกล่าวไว้ ว่าพวกเราจะไม่สามารถทำจุดเพื่ออ่านเรื่องในอนาคต และเชื่อมต่อจุดกับจุดได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อทบทวนถึงอดีต จะมองเห็นจุดกับเส้นได้ชัดและชัดเจนยิ่งขึ้น ในการทำงานหรือคนก็ตาม ไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้ว่าจุดกับจุดน่าจะต่อกันได้แน่นอน แต่แค่เพียงทบทวนถึงอดีต ก็เข้าใจได้ว่าจุดกับจุดมีการต่อกัน และต่อกันไปเรื่อยๆ
ดังนั้น พวกเรามีความเชื่อมั่นและภูมิใจในกิจกรรมของตัวเอง และมีความภูมิใจในการถ่ายทอด DNA ที่ว่าขยัน ประหยัด เคารพ ถ่อมตัว และการรู้จักประมาณตน และคิดว่าการสร้างจุดใหม่เป็นเรื่องสำคัญ
จุดนั้น คือ ไม่ใช่เป็นเรื่องคนกับบริษัทเท่านั้น อาจจะเรื่องที่ใหญ่ หรือการประชุมเล็กน้อยก็ได้ หรืออาจเป็นเรื่องต่างๆ เช่น การไปทำงานข้างนอกบริษัทที่มีความทรงจำเหลืออยู่ หรือการทานข้าวร่วมกัน หรือการทำการค้าด้วยความพยายาม เป็นต้น และผมคิดว่าการปฏิบัติงานที่ว่าการสร้างจุดนั้นควรจะพยายามทำไม่เพียงแต่ในงานเท่านั้น แม้แต่ในเรื่องส่วนตัวก็ควรทำให้มากเช่นกัน
ในอุโมงค์ที่มืดและยาวอาจมีช่วงเวลาแว็บหนึ่งอย่างแน่นอนที่ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ เช่น “การประชุมนั้นเป็นก้าวแรกหนึ่งที่ยิ่งใหญ่”“ได้รับการช่วยเหลือด้วยคำพูดเพียงคำเดียวของคนนั้น” “เป็นผลดีจากการที่ได้พบกับท่านนั้น”
ผมจะถามตัวเองเสมอสำหรับคำพูดที่ว่า 『Stability is Change (ความมั่นคงคือการเปลี่ยนแปลง)』 พวกเราบริหารกิจการโดยให้ความใส่ใจที่ว่า “มีการปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงหรือไม่”“ บริษัทของเราได้ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของทุกท่านในโลกหรือไม่”
ต่อจากนี้ไปก็เช่นกัน ผมอยากให้ทุกท่านมีการฝึกฝนตนเองเพื่อที่จะสามารถได้รับการบอกกล่าวว่า『ในโลกนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างนี้นะ』、『ครั้งนี้จะทำสิ่งใหม่แบบนี้นะ』、『เนื่องจากผู้ชายที่อยู่ที่นั่นเป็นคนที่น่าสนใจ ไปพบซิ』、『เธอมีเรื่องใหม่ๆมาเล่าเสมอ สนุกดีนะ』
และกระผมปรารถนาอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะให้สมาชิกของกลุ่มยาซุดะซันเกียวของเราทุกท่าน อยู่ในจุดที่ดี และอยู่ในจุดที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ และมีแรงจูงใจในการค้นพบจุดที่ดีสำหรับทุกท่าน และเพื่อบรรลุในสิ่งเหล่านี้ ผมคิดว่าจะต้องสร้างวัฒนธรรมภายในบริษัท ที่ว่า ศึกษาเรียนรู้ให้ดี ทำงานให้ดี และเล่นหรือเที่ยวให้ดี โดยใช้เวลาและกำลังกายและเงินทุนอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ กระผมจึงมากล่าวเพื่อทักทายกับทุกท่านในโฮมเพจที่ทำปรับปรุงใหม่นี้ ขอขอบคุณที่อ่านข้อความที่ยาวนี้จนจบ การทักทายของท่านประธานในโฮมเพจ คงไม่มีที่ไหนที่ยาวขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นี่แหละคือ คำกล่าวทักทายของกลุ่มยาซุดะซันเกียวของเรา สุดท้ายนี้ ผมขออวยพรให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมากๆ ต่อจากนี้ไปก็เช่นกัน ขอให้กลุ่มยาซุดะซันเกียวได้รับความอุปการะจากทุกท่านตลอดไป CEO ของกลุ่มยาซุดะซันเกียว
